ผู้ขายยาม้าคนแรก

ผู้นำยาม้าเข้าประเทศไทยคนแรก

ยาม้า หรือ ยาบ้าในปัจจุบันได้ถือกำเนิดมาจากคนไทยที่ทำการผลิตขึ้นมา คือนางสาวกัลยาณี  อร่ามเวชอนันต์ โดยการได้ส่งลูกชายของคนไปเรียนวิชาเคมีที่ไต้หวัน เมื่อลูกสำเร็จกลับมาได้มาทำยาม้าจำหน่าย และได้มีโรงงานของตัวเองอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี และได้ถูกจับกุมขึ้น และต่อมาไม่นานยาม้าก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นยาบ้า และบรรดาลูกน้องที่รวมทำการผลิตก็ได้รู้สูตรการผลิตยาม้าชนิดนี้อยู่แล้วบางคนได้หนีไปอยู่แถบบริเวณเพื่อนบ้าน อย่างพม่าและได้ไปอาศัยชนกลุ่มน้อยของพวกว้าแดง หรือขุนส่าจึงเห็นว่าการขายยาม้านั้นดี

จึงทำการขอสูตรเมื่อไม่ได้จึงเกิดการบังคับเกิดขึ้น และการผลิตก็เกิดขึ้นในแถบพม่า และส่งเข้ามาที่ประเทศอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วโดยใช้ช่องทางภาคเหนือในจังหวัดเชียงรายของไทยลำเลียงเข้ามา และทหารก็สามารถดักจับได้ในฝั่งไทย แต่ก็ไม่สามารถข้ามไปจับยังประเทศพม่าได้ ทั้งๆที่เห็นโรงงานผลิตยาแบบเคลื่อนที่ได้ของพวกชนกลุ่มน้อย ที่ได้แตกตัวในการผลิตยาเป็นหลายๆที่ และได้มีการจ่ายส่วยให้แก่ทหารพม่าบางมีรายได้ถึง 150000บาทต่อเดือน เพื่อที่จะได้ผลิตยาม้าจำหน่ายออกมาขายได้

แหล่งพักยาม้า

การกำเนิดยาม้าไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นฝีมือคนไทย ที่นำความเดือดร้อนมาสู่ประเทศไทยจนทุกวันนี้ และเมื่อสูตรของยาม้าได้ตกอยู่ในมือของพวกพม่าว้าแดง หรือพวกลูกน้องของขุนรผลิตลำเลียงเข้ามาทางจังหวัดเชียงราย แส่าแล้ว ก็ได้ทำกาละได้มีการพักยาในหมูบ้านอีก้อ ผาฮี้ ในอำเภอ แม่สายเมื่อทางการสงสัยว่าทำไมชาวบ้านในแถบนี้บางคนรวยผิดปกติ ทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ที่มีเงินนั้นได้จากการปลูกกาแฟ และเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถตรวจค้นได้ จึงทำให้การลำเลียงยาม้า หรือยาบ้าเข้ามาเกลื่อนกลาดในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้

หลายๆคนอาจเข้าใจผิดว่ายาม้า หรือ ยาบ้ามีต้นกำเนิดมาจากพม่า ที่ไหนได้เกิดจากคนไทยนี่เอง และไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกที่ผลิตยาบ้าของชนกลุ่มน้อยมีการสั่งห้ามให้ลูกน้องของตนนั้นเสพยาบ้าโดยเด็ดขาดถ้าฝ่าฝืนกฎจะมีโทษร้ายแรงถึงขั้นยิงเป้าเลยทีเดียว เพราะในยาบ้านั้นมีสารช่วยกระคุ้นให้เกิดความกระปี้กระเป่า และอาจจะทำให้เกิดภาพหลอนด้วยก็ได้อย่างทุกวันนี้มีข่าวออกมามากมายเกี่ยวกับผู้เสพยาม้า และคนไทยก็ยังหาซื้อเพื่อที่จะนำมาเสพ จึงต้องตกเปนเหยื่อของพวกพม่าว้าแดงต่อไป

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนเรื่องราวโดย  Gclub ฝากขั้นต่ำ50