เดือน: ธันวาคม 2019

ไอ้เคี่ยมออกอาละวาด

ข่าวเกี่ยวกับไอ้เคี่ยมออกอาละวาด

จากการเก็บข้อมูล ได้ข้อมูลมาว่า นับตั้งแต่ปีค.ศ. 2015 เป็นต้นมามีจระเข้น้ำกร่อยแวะเวียนเข้ามาวนเวียนอยู่ตามแนวชายหาดวันดอร์ที่พวกมันถือว่าเสมือนเป็นแหล่งอาหารประจำของมันเอง 

     ไอ้เคี่ยมออกอาละวาด กฎหมายว่าด้วยการห้ามล่าจระเข้ในธรรมชาติที่มีบทลงโทษสูงสุดถึงเจ็ดปีทำให้จระเข้เรานั้นนอกจากการล่าถลกหนังจนกลายมาเป็นฆาตกรตัวฉกาจของมนุษย์ผู้อาศัยอยู่โดยบริเวณรอบรอบหาดวันดอร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไว้ตอนหนึ่งว่า 

“ จะนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1970 ที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งชาติออกกฏหมายห้ามล่าจระเข้ในธรรมชาติจระเข้ไวร้ายเหล่านั้นได้พากันปรากฏตัวให้พวกชาวบ้านเห็นทั้งในห้วย หนอง คลอง บึง ก่อให้เกิดความหวัดกลัวว่าพวกมันจะเข้ามาคาบสัตว์เลี้ยงแล้วลามมาถึงชาวบ้านไปกิน

สาเหตุของการที่กลุ่มประเทศในอุษาคเนย์ อินเดียตะวันออกกลับออสเตรเลียเหนือออกกฏหมายห้ามล่าจระเข้ในธรรมชาติมีการระวังโทษสูงเนื่องมาจากมีการล่าล้างเผ่าพันธุ์จระเข้ในธรรมชาติทั้งถลกหนังมาฟอเอาเนื้อมาขายโดยเฉพาะในอินเดียจระเข้ปากกระทุงเหวหวิด สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้วหากไม่ออกกฏหมายดังกล่าว 

      รัฐบาลอินเดียออกกฏหมายห้ามล่าจระเข้ในธรรมชาติเพื่อปกป้องจระเข้น้ำกร่อยโดยตระหนักว่าหากไม่มีกฎหมายดังกล่าวจระเข้จะสูญพันธุ์ในไม่ช้านอกจากจะออกกฏหมายมีโทษจำคุกสูงสุดถึงเจ็ดปีแล้วยังส่งเสริมให้ทางสวนสัตว์ฮัทโดในพอร์ตแบลร์ จะได้ให้เพาะเลี้ยงจระเข้น้ำกร่อยและน้ำลูกจระเข้ไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อขยายพันธุ์ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับทางการไม่จบสิ้นทางกรมป่าไม้แห่งชาติของอินเดียระบุว่าตั้งแต่ปีค.ศ. 2014

มีรายงานเกี่ยวกับจระเข้ทำร้ายมนุษย์หกรายกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศอินเดียประมาณการว่าในปีค.ศ. 2016

มีนักท่องเที่ยวพากันมาท่องเที่ยวในจุดที่เสี่ยงกับการโจมตีของจระเข้ประมาณ 430,000 คนทั้งยังเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 คนในปีค.ศ. 2017 นั่นหมายถึงอันตรายที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะสูงขึ้นตามไปด้วย

เพราะจระเข้น้ำกร่อยสายพันธุ์แบบนี้เสมือนเป็นมหาวายร้ายดุร้ายชอบกินคน จนทำให้เป็นเหตุการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังให้ดี

สังคมโรงงาน

สังคมโรงงานชั่งน่าเบื่อ

              สังคมในโรงงานที่เรามักจะเจอนั้นเป็นสังคมที่มีพฤติกรรมของการนินทาเก่งเป็นที่หนึ่ง

สังคมโรงงาน ในความคิดส่วนตัวของเรา เราก็อยากทราบเหมือนกันนะว่าพวกเขาทำไมถึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น 

จากที่เราเคยสัมผัสบุคคลเหล่านี้มา พบว่าในทุกๆเช้าของวันทำงานพวกเขาจะเริ่มคุยกันด้วยการเม้าท์มอย บางคนก็แทบจะไม่เอ่ยถามสวัสดีในตอนเช้ากันด้วยซ้ำ หรือไม่มีการถามไถ่สาระทุกข์ของอีกฝ่ายเลยแหละ แต่พอเจอหน้ากันก็มีการเม้าท์มอยกันในเรื่องของคนอื่นเลย ทำให้เรารู้ว่าในสังคมที่เป็นแบบนี้ไม่ว่าจะในโรงงานหรือที่ไหนๆเราก็จะเจอคนพวกนี้เยอะเป็นที่สุด

บางคนเห็นวันทั้งวันเอาแต่นินทากัน ไม่ยอมทำงานทำการเผลอคือต้องนินทา สังคมประเภทนี้ไม่ว่าจะที่ไหนๆก็คงเจอเหมือนกับที่เราได้เจออยู่ทุกวัน หากเราทำตัวเด่นเกินไปก็มีแต่คนนินทา เด่นในณะที่นี้ก็คืองานหรือนิสัยที่แตกต่างบุคคลอื่นโดยรวม ทำให้จะมีคนเอาไปนินทาให้ร้าย ดังนั้นการทำงานในกลุ่มที่ไม่ว่าจะเป็นสังคมของโรงงาน พนักงานอฟฟิต หรือแม้แต่สังคมแม่บ้าน ก็จะโดนนินทาได้ทุกเมื่อ

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

คุณทราบหรือไม่ว่ากลุ่มที่นินทาเหล่านี้ พวกเขามักจะมีอยู่ในทุกๆกลุ่มที่เรามักจะเจอในแต่ละวัน อาทิเช่น

สังคมวงไพ่ ใครว่ากลุ่มวงไพ่จะไม่มีการเม้าท์หรือนินทา สังคมนี้เป็นการใช้สมองแต่ปากก็เที่ยวเม้าท์และนินทาคนอื่นไปเรื่อย ยิ่งอยู่ด้วยกันทั้งวันอย่างนั้นแล้ว บางทีก็นินทากันเอง สังคมในกลุ่มวงไพ่แบบนี้ พวกเขาจะมีเรื่องเม้าท์ชาวบ้านทุกวัน และใครๆก็จะมาโดนเม้าท์โดนต่อว่าหรือใส่ไฟมากที่สุด

สังคมโรงงาน เป็นสังคมที่ขาดไม่ได้กับการนินทาว่าหรือให้ร้ายผู้อื่น เรียกว่าสังคมโรงงานเหล่านี้มีทุกเรื่องครบรสเช่นกัน อาทิเช่น ใส่ความ อิจฉา เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ และยิ่งสังคมโรงานขึ้นชื่อสุดก็ในเรื่องของการเป็นชู้กัน เพราะบุคคลเหล่านั้นเจอกันที่ทำงานทุกวัน และคิดว่าคงไม่มีใครรู้หรือคนที่บ้านไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอน จึงกระทำเรื่องที่ผิดได้อย่างง่าย ส่วนใหญ่คนในสังคมโรงงานนั้นจะเป็นเด็กที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ดังนั้นการที่พวกเขาจะไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีนั้นก็คงเป็นไปได้ยากเช่นกัน และยิ่งพวกที่มีอายุน้อยในสมัยนี้ก็เป็นคนที่ไม่

 

สนใจในสัจจะธรรมเลยสักนิด ทำให้เรียกว่าเอาใจตัวเองเป็นหลักขาดความยั้งคิดและขาดสติในการคิด จึงทำให้เป็นต้นเหตุในเรื่องของการนินทา และสังคมโรงงานเหล่านี้ก็มีเรื่องนินทาเยอะกว่าสังคมอื่นๆที่เราเคยเจอมาอีกด้วย